SAPPHIRE CRYSTAL 1900-2200 Vickles
กระจกหน้าปัดนาฬิกาชนิดคริสตัลแซพไฟร์ที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องมาจากความทนทานต่อการขูดขีดนั้น เป็นแซพไฟร์สังเคราะห์ที่แปรรูปมาจากคอรันดัม (Corundum) หรืออะลูมินัมออกไซด์ (Aluminum Oxide-Al203) ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยเริ่มจากการนำเอาผงอะลูมินัมออกไซด์ที่มีความละเอียดสูงบรรจุลงในแบบแล้วนำไปเผาในผาในเตาเผาความร้อนสูงที่อุณหภูมิ 2,150 องศาเซลเซียส จนผงอะลูมินัมออกไซด์ จับตัวกันเป็นก้อนแซพไฟร์ตามแบบของแม่พิมพ์ ก้อนแซพไฟร์ที่ได้นี้มีค่าความแข็งที่สูงมาก สามารถป้องกันการขูดขีดได้เกือบสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะถูกส่งไปผ่านกระบวนการตัดเป็นชิ้นด้วยใบเลื่อยที่ทำจากเพชร ชิ้นส่วนเหล่านี้จะถูกนำไปแต่งและขัดให้เป็นรูปทรงต่างๆ ตามต้องการ แต่ด้วยความที่แข็งมาก กระบวนการนี้จึงกินเวลายาวนานถึงประมาณ 4 สัปดาห์
ขั้นตอนการผลิตแซพไฟร์สังเคราะห์ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นกระบวนการมาตราฐานในการผลิตกระจกคริสตัล แซพไฟร์ แต่สำหรับชิ้นส่วนที่นำมาใช้กับนาฬิกา Rado นั้น กระจกรูปแบบต่างๆ เหล่านี้จะถูกนำไปผ่านกระบวนการเคลือบผิวด้านในบางส่วนให้เป็นสีของโลหะต่างๆ (Metallization) ซึ่งกระจกเคลือบสีนี้ถือเป็นคุณลักษณะพิเศษประการหนึ่งของนาฬิกา Rado โดยกระบวนการเคลือบสีโลหะจะเริ่มต้นที่ห้องสูญญากาศ (Vacuum Chambers) โดยกระจกจะถูกเคลือบด้วยสารโลหะที่ให้สีต่างๆ ตามต้องการ จากกระบวนการที่ปล่อยให้สารโลหะเหล่านั้นค่อยๆ เกาะตัวบนผิวด้านในของกระจก กระจกที่ถูกเคลือบสีจากกระบวนการนี้จะต้องกระบวนการพิมพ์ลายด้วยภาพถ่าย (Photolithographic Process) เพื่อให้ด้านในของกระจกมีโครงสร้างและลวดลายต่างๆ ตามที่ต้องการ ดังที่จะพบเห็นได้ในนาฬิการุ่นต่าง ๆ ของ Rado
ที่มา นิตยสาร
เรื่องโดย OmniscientBoy